webtumwai.com=> ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ


ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รับทำเว็บไซต์ชลบุรี เว็บประกาศขาย เครื่องบำบัดน้ำใส รับทำเว็บไซต์ชลบุรี เว็บประกาศขาย เครื่องบำบัดน้ำใส

รับทำเว็บไซต์ชลบุรี เว็บประกาศขาย เครื่องบำบัดน้ำใส

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด


รับทำเว็บไซต์ ประกาศขาย เครื่องบำบัดน้ำใส และเว็บไซต์ต่างๆที่เน้นเรื่องการขาย หรือประชาสัมพันธ์สินค้าบนโลกออนไลน์ให้คนทั่วไปที่ใช้อินเทอร์เน็ต สามารถค้นหาใน Google แล้วรู้จักสินค้าของคุณ ทำให้คุณมีโอกาสทางธุรกิจในการค้าขายสินค้าต่างๆและเครื่องบำบัดน้ำใสมากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์ของเราออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และระบบที่ดูแลง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งคุณสามารถ เพิ่ม ลบ แก้ ข้อมูลต่างๆได้ตามความต้องการ คุณสามารถนำสินค้าที่เป็นเครื่องบำบัดน้ำใสและสินค้าอื่นๆ มาลงบนเว็บไซต์ได้อย่างไม่จำกัดจำนวน อีกทั้งคุณยังสามารถแบ่งหมวดหมู่ของสินค้าได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่จะสามารถเข้ามาค้นหาสินค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

สนใจทำเว็บไซต์ประกาศขายเครื่องบำบัดน้ำใส สามารถติดต่อสอบถามได้ตามเบอร์โทรที่ปรากฎอยู่บนหน้าเว็บไซต์แห่งนี้






ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-01-14 12:36:00




ทําเว็บเกี่ยวกับอะไรดี ถึงจะมีรายได้ ทําเว็บเกี่ยวกับอะไรดี ถึงจะมีรายได้

ทําเว็บเกี่ยวกับอะไรดี ถึงจะมีรายได้

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

ทําเว็บเกี่ยวกับอะไรดี ถึงจะมีรายได้ หลายๆคนตั้งคำถามแบบนี้ขึ้นมา เพราะอยากจะมีเว็บไซต์ที่เอาไว้หารายได้สักเว็บ แต่มันติดอยู่ที่ว่า...ไม่รู้จะทำเว็บเกี่ยวกับอะไรดี
เพราะการไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีแล้วไม่ได้ทำซักที สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ทำเพราะมัวแต่ลังเล


เสริมกำลังใจกันก่อนที่จะทําเว็บเกี่ยวกับอะไรดี

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญในการเอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง มีคนเคยบอกว่าปาฎิหารย์เกิดขึ้นจริงเสมอ...ถ้าลงมือทำ ทีนี้เรามาดูกันก่อนว่าเพราะอะไรเราถึงต้องทำเว็บไซต์ ในสมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้ามากแล้ว แทบจะไม่มีใครเลยที่ไม่รู้จักเว็บไซต์ อาจเป็นเพราะมือถือซึ่งทุกคนต้องมีติดตัวมันสามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะไปไหน สงสัยอะไร หรืออยากจะซื้อสินค้า ก็มักจะค้นหา google จากโทรศัพท์ของพวกเขา ทำให้การค้าขายสมัยนี้มุ่งเน้นไปทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ก็เพราะมันสะดวกนี่เอง ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

ทําเว็บเกี่ยวกับสิ่งที่อยากทำ

เมื่อรู้แล้วว่าเว็บไซต์เป็นแหล่งค้าขาย เป็นตลาดที่เปิดกว้าง และเป็นที่นิยมของผู้คนสมัยนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องลังเลที่จะมีเว็บไซต์ไว้เปิดขายของออนไลน์หน้าร้านสักหนึ่งเว็บ การทำเว็บไซต์ขายของที่สนุกที่สุดคือ การเลือกสินค้าที่ตนเองชอบมาเปิดเว็บไซต์แล้วขายของออนไลน์ ซึ่งจะทำให้คุณเพลิดเพลินและมีความสุขไปกับการขายของและชมสินค้าที่คนชอบไปพร้อมๆกัน

เลือกสินค้าได้แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเอาสินค้าที่ไหนมาขาย

คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ในเรื่องของการสต๊อกสินค้าและการส่งของ เพราะคนส่วนใหญ่เปิดเว็บไซต์แล้วยังไม่กล้าลงทุนสต๊อกสินค้าไว้ที่บ้าน เรามีวิธีแจ๋วๆให้สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ สมมุติว่าคุณตัดสินใจว่าคุณจะขายนาฬิกาบนเว็บไซต์ เพราะคุณชอบนาฬิกา แต่คุณยังไม่อยากลงทุนสต๊อกสินค้า ง่ายๆคือ คุณเข้าไปใน Facebook หรือ Google แล้วไปที่ช่องค้นหา พิมพ์คำว่า ตัวแทนจำหน่าย นาฬิกา เพียงเท่านี้คุณก็จะเจอผู้ขายส่งสินค้าให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องสต๊อกของ  เอ๊ะ!...ยังไง ขายสินค้าแต่ไม่ต้องสต๊อกของ ซึ่งวิธีนี้เขาเรียกว่า Drop shipping คือ คุณไม่ต้องสต๊อกสินค้าและไม่ต้องส่งของ แต่คุณสั่งของได้ในราคาส่ง หากพูดง่ายๆคือ คุณเป็นนายหน้าขายสินค้านั่นเอง

Drop shipping มีหลักเกณฑ์ทั่วๆไปดังนี้
- คุณมีเว็บไซต์ เอารูปและรายละเอียดสินค้า จากผู้จำหน่ายค้าส่ง มาลงในเว็บของคุณ
- เมื่อลูกค้าสั่งของกับคุณ และโอนเงินให้คุณ ในราคาที่เป็นคุณบวกกำไรกับสินค้าชิ้นนั้นไปเรียบร้อยแล้ว
- คุณสั่งของจากผู้จำหน่าย แล้วโอนเงินให้เขาในราคาส่งที่เขากำหนด
- ผู้จำหน่ายมีหน้าที่ส่งของให้ลูกค้า โดยคุณต้องบอกที่อยู่การจัดส่งของลูกค้าให้กับผู้จำหน่ายค้าส่ง และผู้ส่งให้ลงชื่อคุณลงไปเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเมื่อลูกค้าได้รับ
- คุณรอรับหมายเลขพัสดุจากผู้จำหน่ายค้าส่งเมื่อเขาส่งสินค้าแล้ว
- คุณเอาหมายเลขพัสดุส่งให้ลูกค้า เพื่อยืนยันว่าคุณได้ส่งสินค้าแล้ว
- จบกระบวนการ

เหล่านี้ก็เป็นวิธีการขายของผ่านเว็บไซต์ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบันครับ หากคุณขายดีขึ้นเรื่อยๆ พอจะมีเงินทุนอยู่บ้างแล้ว ก็ค่อยสั่งสินค้ามาสต๊อกไว้เป็นบางส่วนก็ได้ เพื่อที่ลูกค้าสั่งของมาคุณจะได้ตอบลูกค้าได้ทันทีว่า มีของพร้อมส่ง

สุดท้ายใครที่ยังติดเรื่องไม่มีเว็บไซต์ สามารถติดต่อสั่งทำเว็บไซต์ขายของกับผมได้ครับ ผมรับทำเว็บไซต์ขายของอยู่ที่ราคา 4,500 บาท พร้อมกับสอนวิธีเอาชนะคู่แข็งบนตลาดออนไลน์ สนใจทำเว็บไซต์โทรสอบถามได้ที่เบอร์ด้านล่างครับ







ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2015-02-14 23:00:41




วิธีการทําเว็บไซต์ขายของ ทำแบบไหน ใช้เว็บอะไรดี วิธีการทําเว็บไซต์ขายของ ทำแบบไหน ใช้เว็บอะไรดี

วิธีการทําเว็บไซต์ขายของ ทำแบบไหน ใช้เว็บอะไรดี

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

วิธีการทําเว็บไซต์ขายของนั้น ควรทำแบบไหนแล้วใช้เว็บอะไรดี ถึงจะสามารถขายของผ่านทางเว็บไซต์แล้วมีคนเข้ามาซื้อสินค้าของเราจริงๆ วันนี้ผมจะมาแนะนำแนวทางว่ามีวิธีการ+เว็บอะไรบ้างที่สามารถนำมาทำเว็บขายของได้

พูดถึงเรื่องเว็บไซต์ขายของแล้ว เชื่อได้เลยว่าเกือบ 90% คิดที่จะขายของผ่านเว็บ เป็นเจ้านายตัวเอง ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร ทำงานอยู่ที่บ้านก็ได้ หากคุณคิดแบบนี้แล้วผมถือว่าเป็นความคิดที่ดีนะครับ ชีวิตคนเราต้องมีความอิสระ ไม่ว่าจะการเงิน การงาน ก็จะทำให้สนุกและตื่นเต้นไปกับการจัดการบริหารด้วยตัวเราเอง

ทีนี้ท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่นั้นก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือ วิธีการทําเว็บไซต์ขายของ ทำแบบไหน ใช้เว็บอะไรดี ผมก็จะกล่าวตั้งแต่เว็บที่นำมาทำเว็บขายของในแบบต่างๆที่ทั้งฟรีและไม่ฟรี เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ มาดูกันว่ามีเว็บอะไรบ้าง ข้อดี ข้อด้อยต่างกันอย่างไรในแนวคิดของผม

วิธีการทําเว็บไซต์ขายของ (เว็บไซต์ของฟรี)
คงไม่มีใครปฏิเสธของฟรี จริงมั้ยครับ แต่ของฟรีนั้นก็ต้องดีด้วยถึงจะนำมาทำเว็บไซต์ขายของได้ งั้นมาเริ่มกันเลยว่าเว็บไซต์ของฟรีเรียงจากง่ายไปยากนะครับ

1. Facebook คงไม่มีใครไม่รู้จักนะครับ เล่นกันอยู่ทุกวันอยู่แล้ว เราเอา Facebook นี่แหละมาทำเป็นเว็บไซต์ขายของ เอาแบบง่ายสุดแบบคนไม่มีประสบการณ์ใช้เว็บก็ขายของได้ โดยการอัพเดตข้อมูลสินค้าของเรานี่แหละครับ ทำเหมือนตอนเราโพสข้อความหรือโพสรูปปกติทั่วๆไป ซึ่งเปลี่ยนจากรูปตัวเองเป็นรูปสินค้าแทน และตามด้วยอธิบายรายละเอียดสินค้าและราคาของสินค้า ส่วนจะขายดีหรือไม่หลักๆเลยคือ จำนวนเพื่อนครับ แล้วเพื่อนเกี่ยวไรด้วย? เกี่ยวครับ เพราะทุกครั้งที่เราโพสอะไรลงไปเพื่อนๆของเราก็จะเห็นทั้งหมด นี่แหละคือความสุดยอดของเฟสบุค แต่ในความสุดยอดของมันก็ต้องใช้พอประมาณนะครับ ไม่ใช่วันนึงโพสสินค้าเป็นร้อยๆรายการ เดี๋ยวเพื่อนๆรำคาญลบเพื่อนไม่รู้ด้วยนะ

2. Wordpress เว็บไซต์ฟรียอดนิยม หาดาวน์โหลดมาติดตั้งใช้งานกันได้ฟรีๆ ด้วยความสามารถที่เต็มเปรี่ยมของ Wordpress คือ มันรองรับระบบการค้นหาของ google เป็นอย่างดี (SEO) พูดง่ายๆคือเอาสินค้าไปลงแล้วมีโอกาสติดหน้าแรกของ Google ได้ง่าย มันง่ายก็จริงอยู่ในการให้สินค้าเราติดหน้าแรก แต่เราต้องดูคู่แข่งด้วยว่ามีมากเป็นหลักแสนมั้ย ถ้าเป็นแสนๆก็ไม่ไหวที่จะติดหน้า 1 ด้วยระยะเวลาอันสั้นๆ Wordpress จึงเหมาะกับผู้ที่มีความรู้เรื่องของโฮสติ้ง และการจัดการเว็บไซต์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ใครทำไม่เป็นอ่านข้ามไปเลยครับ


วิธีการทําเว็บไซต์ขายของ (เว็บไซต์แบบเสียตังค์)
มีของฟรีแล้วก็ต้องมีเสียตังค์ครับ ของเสียตังค์มันก็ต้องดีกว่าของฟรีจริงมั้ยครับ แต่ก็ไม่เสมอไปนะ ต้องดูด้วยว่าเราจ้างใครทำเว็บ คนที่รับทำเว็บเขาสร้างเว็บเป็นหรือเปล่า หรือเค้าไปโหลดเว็บฟรีๆข้างต้นมาขายให้เราใช้ อืม...แบบนี้ก็มีด้วย ทีนี้ของเสียตังค์มันก็ต้องมีอะไรที่ดีและพิเศษกว่าของฟรี แต่คุณต้องสอบถามผู้รับทำเว็บให้ดีว่าเขาตอบคำถามเหล่านี้ได้หรือไม่
- หากเว็บมีปัญหาแก้ได้มั้ย
- แนะนำวิธีขายของออนไลน์ให้หรือเปล่า
- ติดต่อได้ตลอดหรือไม่
- หากเราจะเพิ่มตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อยทำให้เราได้มั้ย
- ราคาต้องไม่แพงจนเกินไป
- ต้องตอบคำถามได้ว่ามีวิธีอะไรบ้าง เว็บไซต์ถึงจะขายของได้

เหล่านี้คือสิ่งที่เราต้องสอบถามให้แน่ใจก่อนที่จะสั่งทำเว็บไซต์ขายของ ซึ่งหากผู้รับทำเว็บบริการดี ดูแลดี ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว


วิธีการทําเว็บไซต์ขายของ (ในด้านการตลาดออนไลน์)
ไม่ว่าจะเว็บไซต์ฟรี หรือไม่ฟรี ถ้าไม่รู้วิธีทำการตลาด ก็เท่ากับว่าคุณมีแค่เว็บไซต์ มีหน้าร้านออนไลน์ แต่ไม่มีคนซื้อของ เพราะไม่มีคนเข้า เจ้าของเว็บก็เลยตั้งนั่งปัดแมลงวันรอลูกค้าไปวันๆเท่านั้น ใช่แล้ว...ก็มันอารมณ์นั้นจริงๆนี่ครับ ผมเคยเป็นมาก่อน ถึงผมจะเรียนมาทางสายเขียนโปรแกรม และชอบการเขียนเว็บมากที่สุด แล้วก็เคยคิดว่าเราทำเว็บได้ ยังไงเราก็ได้เปรียบเพราะเราต้องขายของได้แน่นอน แต่ความจริงไม่ใช่เลยครับ...ทำเว็บเสร็จแล้วต้องนั่งปัดแมลงวันรอคนเข้ามาซื้อของ เพราะไม่รู้เรื่องการตลาดออนไลน์ แต่วันนี้ผมไม่ใช่คนเก่าอีกแล้ว ผมได้ฝึกฝนเรื่องของการตลาด พร้อมกับพัฒนาเว็บไซต์ให้รองรับ การค้นหาของ Google ให้มากยิ่งขึ้น + จะสอนลูกค้าที่มาทำเว็บกับผมด้วยว่า การตลาดทำแบบไหนแล้วจะขายของได้

ในบทความนี้ไม่ได้สอนเรื่องการตลาดออนไลน์ครับ เพราะผมสอนแต่ลูกค้าที่มาทำเว็บไซต์ขายของกับผมเท่านั้น ดังนั้นบทความนี้ก็เลยเป็นแนวคิดให้กับผู้ที่กำลังค้นหาวิธีการทําเว็บไซต์ขายของ เพื่อที่ท่านจะเลือกได้ว่าตัวเองเหมาะกับการทำเว็บขายของแบบไหน สุดท้าย จะเว็บฟรี หรือ ไม่ฟรี ขายของได้หมดครับ หัวใจสำคัญอยู่ที่การตลาดอ่ะนะ ถ้าทำเป็นก็ขายสินค้าได้ทุกวัน แต่ถ้าทำไม่เป็นคุณนั่งก็ปัดแมลงวันกันต่อไป





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2015-02-13 23:49:41




ทําเวปขายของเอง ไม่ความรู้ด้านนี้ ควรเริ่มยังไง ทําเวปขายของเอง ไม่ความรู้ด้านนี้ ควรเริ่มยังไง

ทําเวปขายของเอง ไม่ความรู้ด้านนี้ ควรเริ่มยังไง

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

ทําเวปขายของเอง ไม่ความรู้ด้านนี้ ควรเริ่มจากการศึกษาการออกแบบหน้าเว็บก่อน โดยวิธีง่ายๆคือการไปดูเวปขายของของคนอื่น ว่าเวปแบบไหนที่เราเห็นแล้วดูง่าย สวยงาม มีสินค้าให้เราเลือก และทำให้เราอยากซื้อสินค้านั้นๆ

เมื่อทราบแล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือ ทําเวปขายของเอง นี่แหละ คือตัวเจ้าปัญหา เพราะหากเราไม่มีพื้นฐานในด้านการเขียนเว็บมาก่อนเลย ย่อมทำให้ลำบากซักหน่อย แต่ก็สามารถทำได้ถ้าคุณมีความมุ่งมั่นและพยายามที่จะศึกษาการสร้างเว็บไซต์จริงๆจัง แหล่งของการฝึกฝนก็มีให้คุณเลือกคือ

- ไปเรียนกับอาจารย์ตามที่เค้าสอนทำเว็บ
- หนังสือการทำเวปขายของ ที่มีอยู่มากมายในร้านขายหนังสือ
- ดูวิธีการเขียนโค๊ตในเน็ต

บางคนเห็นแล้วก็เริ่มท้อแท้ไม่อยากทำแล้ว ทีนี้เราลองมาดูจุดประสงค์กันว่าคุณมีจุดมุ่งหมายอะไร ถึงมีความคิดที่จะทําเวปขายของเอง
1. ต้องการทำเวปขายของให้เป็นเหรอ?
2. ต้องการขายของออนไลน์ เพื่อให้ได้ตังค์เหรอ?

ถ้าคุณตอบ ข้อ 1. คุณต้องฝึกฝนและพยายามอย่างยิ่งในการเรียนรู้วิธีการทำเวปขายของเอง

ถ้าคุณตอบ ข้อ 2. คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาในการทำเวปขายของให้ยุ่งยาก เพราะเป้าหมายของคุณคือ ต้องการขายของ คุณสามารถจ้างทำเวปขายของในราคาไม่กี่บาท แล้วคุณมาฝึกฝนวิธีการทำอย่างไรให้ขายของบนอินเทอร์เน็ตได้ และเอาชนะคู่แข่งให้ได้จะดีกว่า เพราะจากที่ผมเคยเจอมา คนที่เลือกข้อ 1 มักจะล้มเหลวเพราะไม่พยายามจริงๆจังๆ พร้อมกับต้องมาเสียเวลาไปกับการฝึกทำเว็บ แต่ไม่สำเร็จ และสุดท้ายก็มาจ้างทำเว็บไซต์อยู่ดี

สิ่งสำคัญของการทําเวปขายของ ไม่ใช่การที่เราต้องทำเว็บเป็น แต่สิ่งที่สำคัญคือ การทำอย่างไรที่จะให้คนเข้ามาซื้อสินค้าเราต่างๆหากล่ะ ดังนั้นคุณจึงเอาเวลามาศึกษาวิธีเอาชนะคู่แข่งบนโลกอินเทอร์เน็ต เพื่อให้สินค้าของคุณขายได้จะดีกว่า

หากคุณต้องการทําเวปขายของเอง สามารถสั่งทำเว็บไซต์กับเราได้ เวปไซต์ของเรารองรับธุรกิจการค้าขายทุกประเภท และคุณไม่ต้องกังวลเรื่องการตลาดบนโลกอินเทอร์เน็ต คุณจะต้องขายสินค้าได้อย่างแน่นอน เพราะเราจะสอนและแนะนำคุณเองว่าทำอย่างไรสินค้าของคุณจะขึ้นไปอยู่บนหน้า 1 ของ google และสามารถขายและทำกำไรได้ในที่สุด

สนใจทําเวปขายของ ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทรด้านล่างนี้





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2015-02-12 21:49:59




วิธีทําเวปขายของ ให้มีคนซื้อของ วิธีทําเวปขายของ ให้มีคนซื้อของ

วิธีทําเวปขายของ ให้มีคนซื้อของ

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

วิธีทําเวปขายของ ให้มีคนซื้อของ คุณรู้มั้ยว่าเค้าทำกันยังไง ถึงจะสามารถทำเวปขายของให้มีกำไรก้อนโตๆ หรือกำไรก้อนเล็กๆแต่เก็บกินนานๆ ถ้าอยากรู้วิธี ผมจะเล่าให้ฟังครับ เพราะสิ่งเหล่านี้กลั่นมาจากประสบการณ์ของผมเอง

วิธีทําเวปขายของ ให้มีคนซื้อของนั้น ดูเผินๆแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ทำเว็บก่อน แล้วก็หาสินค้ามาลง แล้วก็นั่งรอ เดี๋ยวก็มีคนมาซื้อเองแหละ คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านการทำเวปขายของเลยมักจะคิดแบบนั้นครับ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือนั่งรอแล้วรอเล่า ก็ขายไม่ได้ซักกะที ทำไมถึงขายไม่ได้ล่ะ
เรามาแบ่งเป็นข้อๆกัน

เวปขายของในด้านของคู่แข่ง

1. เพราะเขาไม่รู้ว่า คนส่วนใหญ่ค้นหาคำว่าอะไรจาก google ที่เกี่ยวกับสินค้าของเขา
2. เพราะเขารู้ว่ามีคนหาชื่อสินค้าของเขาใน google แน่นอน แต่เขาไม่รู้ว่ามีคู่แข่งในคำนั้นๆกี่ล้านเวป
3. เพราะเขาคิดแค่ว่า ทำเวปขายของ ทำทิ้งไว้ เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาซื้อเอง


เวปขายของในด้านของการออกแบบ

1. ไม่มีการแบ่งหมวดหมู่ของสินค้า ทำให้ลูกค้า งง  จบป่ะ...
2. ไม่มีระบบค้นหาสินค้า เหมือนกับไม่มีพนักงานบอกว่าสินค้าอยู่ตรงไหน
3. ลงรายละเอียดสินค้าไม่เคลียร์ คือ เขียนน้อยๆ เพราะขี้เกียจ ลูกค้าอ่านแล้วไม่สามารถตัดสินใจซื้อได้ ก็เลยไปหาสินค้าเว็บอื่นดีกว่า...อืม

ดังนั้นเมื่อรู้แล้วว่าเราพลาดสิ่งใดในข้อไหนไป ตามที่ผมได้แนะนำไว้แล้วนั้น ให้คุณลองไปหาวิธีและศึกษาในแต่ละข้อว่าควรทำอย่างไรถึงจะขายของได้ วิธีทําเวปขายของ ถ้าเราเข้าใจวิธีแล้ว สินค้าเราจะต้องติดอยู่หน้า 1 ของ google เท่านั้น แล้วคุณจะรู้ว่าขายของบนอินเทอร์เน็ตมันสนุกแค่ไหน แต่หากไม่รู้วิธี และคุณไม่พยายาม คุณก็จะไม่สามารถขายของได้เลย ได้มีเพียงแต่เว็บลอยๆไว้บนโลกอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีคนเข้าชม และตัวคุณเองก็อาจล้มเลิกไปในที่สุด

ผมรับทำเวปขายของ มีประสบการณ์และเทคนิคทางการตลาดบนโลกออนไลน์ ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้บอกวิธีว่าทำอย่างไรให้ขายของได้ในบทความนี้ แต่ผมจะบอกและสอน วิธีทําเวปขายของ ให้มีคนซื้อของ ให้กับลูกค้าที่มาทำเว็บไซต์กับผมเท่านั้น หวังว่าบทความนี้ถึงจะไม่ได้ให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อ่าน แต่มันก็คงให้แนวคิดบางอย่างให้กับผู้อ่านได้บ้าง หากคุณสนใจทำเวปขายของติดต่อผมได้ที่เบอร์โทรด้านล่างนี้






ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2015-02-12 20:47:20




ตัวอย่างเว็บไซต์และแยกประเภท ตัวอย่างเว็บไซต์และแยกประเภท

ตัวอย่างเว็บไซต์และแยกประเภท

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

ทุกวันนี้มีเว็บไซต์เกิดขึ้นมากมายบนอินเทอร์เน็ต โดยที่แต่ละเว็บไซต์ต่างก็นำเสนอข้อมูลต่างๆให้น่าสนใจและเป็นข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของตนเอง ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในทุกๆวันที่เราได้ทำการอัพเดตลงไปบนเว็บไซต์นั้น เรามักจะหวังว่าผู้คนจะเขามาในเว็บไซต์ของเราเพื่อมาอ่านข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าและใช้บริการอื่นๆของเราบนเว็บไซต์ แต่หากเว็บไซต์ของเราไม่ได้มีการแบ่งแยกประเภทจะทำให้ข้อมูลมากมายปะปนกันไปหมด ทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เกิดความสับสนในการเลือกอ่านข้อมูลและทำให้เราเสียโอกาสที่จะทำให้ผู้เยี่ยมชมประทับใจเว็บไซต์ของเรา
 
ประโยชน์การแยกประเภทเว็บไซต์
การแยกประเภทเว็บไซต์นั้นมีประโยชน์ นอกจากจะทำให้เว็บไซต์เก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระรบระเบียบแล้วยังทำให้ง่ายต่อการเข้าชมเนื้อหาและข้อมูลที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันอีกด้วย ซึ่งผู้ชมเว็บไซต์สามารถค้นหาข้อมูลตามประเภทและหมวดหมู่ได้อย่างง่ายดาย และเขาก็จะอยู่กับเว็บของคุณนานขึ้น  เขามักจะอ่านเนื้อหาและข้อมูลอื่นๆต่อที่อยู่ในหมวดหมู่นั้นเพราะว่ามันเป็นหมวดหมู่ที่เขาสนใจและอยากอ่านมันต่อ และเหล่านี้ก็เป็นข้อดีและประโยชน์ของการแยกประเภทซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มปริมาณการเข้าชมของเว็บไซต์คุณได้อีกด้วย
 
รูปแบบของการแยกประเภท
การแยกประเภทนั้นโดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นการแยกประเภทแบบชั้นเดียว เพราะว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่านและสะดวกต่อผู้เป็นเจ้าของเว็บในชั้นตอนการอัพโหลดข้อมูลและการคิดโครงร่างสำหรับการแบ่งประเภท ยกตัวอย่างง่ายๆนะ เอาเรื่องเว็บขายเสื้อผ้าก็แล้วกันครับ ลองมาดูตัวอย่างการแยกประเภทแบบชั้นเดียว

เสื้อผ้าผู้ชาย
- เสื้อแขนยาวลายสก๊อต ตัวละ 500 บาท
- เสื้อยืดคอกลม ตราห่าน ตัวละ 200 บาท
- กางเกงขาสั้น ตัวละ 100 บาท

เสื้อผ้าผู้หญิง
- กระโปรงสั้น 200 บาท
- กระโปรงทำงาน 300 บาท
- เสื้อแขนกุด 150 บาท

เสื้อผ้าเด็ก
- ผ้าอ้อมเด็กเล็ก 50 บาท
- เสื้อกล้าม 20 บาท
- กางเกง 30 บาท
จะเห็นได้ว่าการแบ่งประเภทนั้นค่อนข้างดูง่ายไม่ซับซ้อน ทำให้ผู้เป็นเจ้าของเว็บสามารถคิดโครงสร้างในการแบ่งประเภทได้ง่าย และสะดวกในการอัพเดตข้อมูลบนเว็บไซต์
 
ต่อมาผมขอเสนอการแยกประเภทอีกแบบหนึ่ง คือ การแยกประเภทแบบสองชั้น ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของเราเก็บข้อมูลต่างๆได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บเกิดความสะดวกในการค้นหาข้อมูลมากกว่าแบบการแยกประเภทแบบชั้นเดียว โดยในหมวดหมูก็แยกย่อยลงไปอีกเป็นแบบสองขั้น ซึ่งทำให้ความซับซ้อนในการสร้างโครงสร้างของการแยกประเภทของเจ้าของเว็บเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราลองมาดูตัวอย่างกันว่าเป็นแบบไหน

เสื้อผ้าผู้ใหญ่  (หมวดหมู่ชั้นที่ 1)

   + ผู้ชาย (หมวดหมู่ชั้นที่ 2)
         - เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเบอร์ M ราคา 200 บาท (ข้อมูลและสินค้า)
         - เสื้อยืดคอกลม ราคา 300 บาท (ข้อมูลและสินค้า)

   + ผู้หญิง (หมวดหมู่ชั้นที่ 2)
         - เดรสสั้น 500 บาท (ข้อมูลและสินค้า)
         - กางเกงขาสั้น 600 บาท (ข้อมูลและสินค้า)
         - กระโปรงยาว 700 บาท (ข้อมูลและสินค้า)

เสื้อผ้าเด็ก  (หมวดหมู่ชั้นที่ 1)

     + เด็กอ่อน (หมวดหมู่ชั้นที่ 2)
          - ผ้ากันเปื้อน ราคา 30 บาท (ข้อมูลและสินค้า)
          - ถุงมือ ราคา 20 บาท (ข้อมูลและสินค้า)
          - เสื้อ ราคา 50 บาท (ข้อมูลและสินค้า)
          - กางเกง 60 บาท (ข้อมูลและสินค้า)

     + เด็กเล็ก (หมวดหมู่ชั้นที่ 2)
         - เสื้อคอกลม  100 บาท

     + เด็กโต (หมวดหมู่ชั้นที่ 2)
         - กางเกงขาสั้น 200 บาท
         - กางเกงขายาว 300 บาท
 
พอจะเห็นภาพและนึกออกกันหรือยังครับว่าการแยกประเภทแบบสองขั้นนั้นละเอียดแค่ไหน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น และสำหรับตัวอย่างดูได้จากเว็บไซต์นี้ webtumwai.com จะมีโครงสร้างการแยกประเภทแบบชั้นเดียว และที่หน้าหลักของเว็บไซต์สามารถนำประเภทมาจัดเรียงเป็นส่วนๆ ทำให้หน้าเว็บไซต์มีข้อมูลที่หลากหลายและไม่น่าเบื่อ ส่วนการแบ่งประเภทแบบสองชั้นหากคุณต้องการสั่งทำเว็บในรูปแบบนั้นทางเราก็มีขายให้ท่านเช่นเดียวกัน ในราคาค่าทำเว็บไซต์ 4,500 บาท เท่านั้น

 
หากคุณสนใจจะทำเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์แยกประเภทชั้นเดียวหรือสองชั้นก็สามารถโทรมาสั่งทำเว็บไซต์ได้ที่เบอร์โทรศัพท์  087-6131076 ติดต่อ คุณพิษณุ





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-11-14 15:35:30




เขียนบทความอย่างไรให้น่าสนใจ กับเทคนิคง่ายๆที่คุณอาจมองข้ามไป เขียนบทความอย่างไรให้น่าสนใจ กับเทคนิคง่ายๆที่คุณอาจมองข้ามไป

เขียนบทความอย่างไรให้น่าสนใจ กับเทคนิคง่ายๆที่คุณอาจมองข้ามไป

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

บทความคือสิ่งจำเป็นที่ต้องเคียงคู่ไปกับเว็บไซต์ของเรา การเขียนบทความที่ใช้ภาษาเรียบง่ายและอ่านง่ายนั้นย่อมทำให้ผู้อ่านเกิดความประทับใจ แต่เท่านั้นก็ยังไม่พอ บทความที่เราจะลงทุนเสียเวลาเขียนขึ้นมานั้นจะต้องทำอย่างไรก็ได้ให้มีผู้ชมเข้ามาอ่าน ดังนั้นสิ่งที่เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับการเขียนบทความในวันนี้นั้นคงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเขียนบทความเพื่อให้ตรงใจผู้ชมและดึงดูดท่านผู้ชมเข้ามาอ่านบทความคุณภาพที่เราได้ตั้งใจเขียนกันไว้
 
ต้องรู้ก่อนว่าอะไรคือปัญหาและคำถาม
ผู้คนมามายที่เข้ามาค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์นั้น ส่วนใหญ่พวกเขามักจะมีปัญหาและคำถามมากมายที่พวกเขาอยากจะรู้ โดยที่ต่างคนต่างกันมีปัญหาและคำถามมากมายอยู่ในจิตใจหลายเรื่อง ทำให้พวกเขาต้องมาค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเพื่อตอบคำถามเหล่านั้นให้กับตัวของเขาเอง ดังนั้นเมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรคือปัญหาแลอะไรคือคำถาม ให้คุณจงหยิบยกสิ่งเหล่านั้นมาเขียนเป็นหัวเรื่อง เพื่อจะทำให้ตรงต่อความต้องการของผู้เยี่ยมชม โดยเรื่องที่คุณกำหนดคำถามนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณเองมีความถนัดและสามารถเขียนบรรยายถ่ายทอดออกมาให้ผู้อ่านได้รับความรู้และได้รับทางออกของปัญหาเหล่านั้น ดังนั้นการนำปัญหาหรือคำถามที่คุณคิดได้มาตั้งเป็นหัวเรื่องย่อมทำให้คนที่มีความสงสัยเกี่ยวกับปัญหาเหล่านั้นอยู่ค้นหาบทความของคุณเจอและอ่านบทความของคุณในที่สุด
 
เหตุผลที่นำมาอ้างอิง
เมื่อคุณได้หัวเรื่องที่ดึงผู้ชมเข้ามาในเว็บเพื่อที่จะอ่านบทความแล้ว ในส่วนถัดไปเป็นหน้าที่ของด้านเนื้อหาและการบรรยายซึ่งจะต้องอ้างอิงเหตุผลและข้อคิดเห็นต่างๆของคุณสอดแทรกลงไปเพื่อให้ผู้อ่านได้อ่านและวิเคราะห์สิ่งเหล่านั้นตามไปพร้อมกับสิ่งที่เขาอยากรู้และอยากได้คำตอบ ตรงส่วนเนื้อหานี้มีความสำคัญมากเพราะหากคุณเขียนดีก็จะทำให้ผู้อ่านติดใจและเขาก็อาจจะเว็บเวียนกลับมาหาเว็บของคุณอีกก็เป็นได้ อีกส่วนหนึ่งที่ได้คือทำให้ผู้อ่านใช้เวลาในการอ่านและเปิดหน้าเว็บไซต์ของคุณนานยิ่งขึ้น
 
วิธีแก้ปัญหาและแนวทาง
ตรงนี้เป็นจุดสุดยอดของบทความก็ว่าได้ หากคุณเขียนวิธีแก้ปัญหาของหัวเรื่องที่คุณตั้งไว้และทำให้ผู้อ่านเข้าใจและสามารถนำแนวทางไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวของเขาได้แล้วนั้น แน่นนอนได้เลยว่าเว็บไซต์และบทความของคุณได้คะแนนความชอบของผู้อ่านไปเต็มๆ และพวกเขาเหล่านั้นจะกลับมาอ่านบทความอื่นๆในเว็บไซต์ของคุณอีกแน่นอน
 
การเขียนบทความเป็นสิ่งสำคัญหากเรารู้หลักการและเทคนิคต่างๆเล็กๆน้อยนำมาปรับแต่งผสมผสานกันย่อมทำให้เว็บของเราเอาชนะคู่แข่งได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วเว็บไซต์ที่มีบทความที่ดีเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นย่อมเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ใช่เว็บไซต์ขยะ จึงทำให้ผู้คนหลงใหลและติดตามความเป็นไปและเรื่องราวใหม่ๆบนเว็บไซต์ของคุณอยู่เสมอ
 





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-11-05 16:40:06




การทำเว็บไซต์ให้คนเข้าแบบยั่งยืน การทำเว็บไซต์ให้คนเข้าแบบยั่งยืน

การทำเว็บไซต์ให้คนเข้าแบบยั่งยืน

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

การทำเว็บไซต์ให้มีคนเข้าเยอะๆนั้นก็เป็นสิ่งที่หลายๆคนที่มีเว็บไซต์เป็นของตนเองต้องการให้เป็นเช่นนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วในบางครั้งก็รู้สึกว่ามันยากเย็นเหลือเกินที่จะเรียกคนให้เข้ามาดูเว็บของเรา เพราะพวกเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าถ้าคนเข้าเว็บไซต์ของเราเยอะๆนั่นหมายความว่าเว็บของเราจะสามารถทำกำไรกับการขายสินค้าและเก็บค่าโฆษณาได้อย่างมากมายเลยทีเดียว เหมือนกับเว็บไซต์ที่ดังแล้วใครๆก็ต้องรู้จักเช่น sanook.com และ kapook.com เว็บเหล่านี้มีคนเข้าออกในปริมาณที่มากมายในทุกๆวัน เคยสงสัยไหมพวกเขาที่เป็นเจ้าของเว็บทำได้อย่างไร วันนี้ผมก็จะมาพูดคุยกันแบบเทคนิคทั่วๆไปที่สามารถทำให้เว็บมีคนเข้าชมที่ยั่งยืนและเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
 
การเขียนบทความและเนื้อหาข้อมูลภายในเว็บไซต์
เว็บไซต์และบทความนั้นเป็นของคู่กัน หากเว็บไซต์ใดที่ไม่มีบทความหรือเนื้อหาภายในเว็บไซต์เลยก็ย่อมทำให้ผู้คนที่เข้ามาปิดหน้าเว็บของคุณทันทีเพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากเว็บของคุณและไม่ได้ตอบสนองความต้องการของเขา ดังนั้นการเขียนบทความเป็นสิ่งที่ใครๆก็รู้ แต่มันก็มีใครไม่กี่คนนักที่จะเขียนบทความอัพโหลดลงไปในเว็บไซต์ทุกวัน เพราะ google มักจะชอบบทความใหม่ๆ หากเราทำการเขียนบทความขึ้นมาเองย่อมทำให้เว็บไซต์เรามีข้อมูลที่สุดใหม่ไม่ซ้ำใคร google จะหลงรักเว็บไซต์ของคุณแน่นอน สำหรับท่านผู้ชมทั้งหลายที่เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณก็ต้องการบทความและข้อมูลที่สดใหม่เช่นเดียวกัน และยิ่งเป็นบทความที่มีประโยชน์ต่อพวกเขาแล้วล่ะก็...รอบหน้าเค้าจะต้องย้อนกลับมาเว็บไซต์ของคุณอีกแน่นอน บทความที่ดีจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนเข้ามาหาเว็บไซต์ของคุณเอง โดยที่ google จะช่วยพามาให้
 
การจัดหมวดหมู่และประเภทของบทความ
บางครั้งการที่เว็บของเรามีบทความและเนื้อหาเพิ่มขึ้นมากมายแล้ว มักจะทำให้หัวข้อต่างๆมาปริมาณมากและผู้เข้าชมอาจจะงงเมื่อต้องการอ่านบทความอื่นๆที่เป็นเรื่องๆเดียวกับที่เขาสนใจ ดังนั้นหากคุณได้วางแผนการจัดหมวดหมู่และประเภทของเว็บความแล้ว ย่อมจะทำให้ผู้เข้าชมสามารถเข้ามาอ่านข้อมูลต่างๆที่เป็นเรื่องที่เขาชอบและซึ่งจะทำให้ผู้อ่านสะดวกในการอ่านโดยเขาจะอ่านบทความถัดไปเรื่อยๆในหมวดหมู่นั้นๆ ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีปริมาณการปิดหน้าเว็บเพิ่มขึ้น และจะได้คะแนนการจัดอันดับใน google อีกด้วย
 
การจัดวางรูปแบบของข้อมูลในหน้าแรก
หน้าแรกของเว็บไซต์ถือว่าสำคัญมากที่สุด การจัดวางข้อมูลที่เป็นระบบระเบียบย่อมทำให้ผู้เข้าชมง่ายต่อการเลือกอ่านข้อมูลที่เขาต้องการ และโดยมากคุณมักจะเห็นเว็บไซต์ต่างๆที่หน้าแรกเต็มไปด้วยโฆษณาที่จัดวางอย่างยัดเยียดให้คลิก ขนาดที่ว่าท่านผู้ชมเปิดเข้าไปแล้วรู้สึกกลัวทันที สำหรับบางเว็บไซต์หน้าแรกก็โล่งซะเกินไป มีหัวข้อที่เป็นข้อมูลอยู่นิดเดียวเอง เหล่านี้ก็ย่อมทำให้เสียโอกาสในการดึงดูท่านผู้ชม ดังนั้นหน้าเว็บที่ดีต้องเป็นอย่างไรต้องออกแบบในรูปแบบไหน เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว เพียงคุณลองไปดูเว็บไซต์ดังๆ โดยผมขอยกตัวอย่างเว็บ sanook.com และเมื่อคุณเข้าไปดูแล้วจะเห็นว่าเขาได้แบ่งหมวดหมู่ในหน้าแรกเป็นโซนๆไป และจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แม้แต่โฆษณาที่มาติดบนหน้าเว็บก็ยังเนียนจนบางครั้งดูไม่ออกเลยว่าเป็นโฆษณา รูปแบบหน้าเว็บเหล่านี้คุณสามารถดูเป็นแนวทางในการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณได้
 
การโปรโมทเว็บไซต์
นอกจากการมีเนื้อหาของเว็บไซต์ที่ดีแล้ว เมื่อเริ่มมีคนเข้าแล้วมันก็จะเติบโตไปเรื่อยๆตามวันเวลาและปริมาณของบทความในเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นการโปรโมทเว็บโดยการโฆษณาจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมมากมายหลั่งไหนเข้ามาอ่านบทความในเว็บไซต์ของคุณ เป็นเหมือนตัวเร่งความเร็วในการเรียกคนเข้าเว็บไซต์ แต่การโปรโมทเว็บไซต์ควรทำด้วยความพอดีและเหมาะสม ไม่ควรโปรโมทบทความเดิมๆซ้ำๆ ควรเปลี่ยนบทความไปเรื่อยๆและให้ตรงกับหมวดหมู่ของเว็บที่เขาให้เราลงประกาศข้อมูลฟรี
 
เหล่านี้เป็นเทคนิคที่สามารถนำพาเว็บของคุณไปสู่ความยั่งยืน และจะถูกเรียกว่าเว็บไซต์คุณภาพก็ว่าได้ ดังนั้นการทำเว็บไซต์อย่างใจร้อน ให้เว็บไซต์มันค่อยๆเติบโตไปพร้อมๆกับตัวของเราเองและเราจะได้รับรางวัลและสิ่งตอบแทนที่ยิ่งใหญ่จากเว็บไซต์สุดที่รักของเราแน่นอน





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-11-04 22:40:53




ทำไมถึงต้องมีเว็บไซต์ ทำไมถึงต้องมีเว็บไซต์

ทำไมถึงต้องมีเว็บไซต์

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

เคยสงสัยไหมว่าทำไมต้องมีเว็บไซต์

การมีเว็บไซต์นั้นมีข้อดีมากมายหลายประการ ซึ่งหากคุณยังไม่เคยมีเว็บไซต์มาก่อนคุณก็จะไม่รู้เลยว่า

การมีเว็บไซต์มันมีข้อดีมากมาย ผมจะยกตัวอย่างเป็นข้อๆก็แล้วกันครับ

- สร้าางความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรหรือร้านค้าของคุณ

- ทำให้ผู้คนมากมายรู้จักสินค้าของคุณ ซึ่งคนทั่วโลกจะเห็นสินค้าของคุณได้

- หากคุณทำงานรับเหมาต่างๆ คนสามารถนำเสนอโปรไฟล์งานของคุณผ่านทางเว็บไซต์ได้

- ทำให้รายได้ของคุณเพิ่มขึ้น เพราะเนื่องจากผู้คนมากมายเห็นสินค้าของคุณบนเว็บไซต์

- สามารถเผยแพร่ความรู้ต่างๆให้ผู้อื่นเข้ามาอ่านบทความของคุณได้

- ข้อมูลต่างๆเช่น สินค้า บนเว็บไซต์สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว และแบ่งแยกหมวดหมู่ได้

- สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลต่างๆได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

- ทำให้การติดต่อทางด้านธุรกิจง่ายขึ้น เนื่องจากเรามีสินค้าหรือโปรไฟล์นำเสนอบนหน้าเว็บ

 





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-10-17 18:53:43




หญิง - ชาย กับความแตกต่างของการเข้าชมเว็บไซต์ หญิง - ชาย กับความแตกต่างของการเข้าชมเว็บไซต์

หญิง - ชาย กับความแตกต่างของการเข้าชมเว็บไซต์

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

       ในการทำเว็บไซต์นั้นเราควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แน่นอนว่าเว็บของเราเน้นเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลกลุ่มใด โดยทั่วๆไปมักจะแบ่งเป็นสองกลุ่มหลักๆคือ กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชาย และกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง โดยกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ก็จะขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ของคุณเอง เช่น คุณทำเว็บไซต์เครื่องสำอาง กลุ่มเป้าหมายหลักของคุณส่วนใหญ่ที่จะเข้าเว็บไซต์ของคุณจะเป็นผู้หญิง แต่หากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับรถยนต์ กลุ่มเป้าหมายหลักของคุณส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย เป็นต้น

      ซึ่งสองกลุ่มเป้าหมายนี้มีพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน เช่น พฤติกรรมการคลิกเมนูลิงค์  การอ่านบทความหรือข้อความต่างๆที่อยู่บนเว็บไซต์ ตลอดจนกระทั่งระยะเวลาของเปิดดูหน้าเว็บนั้นๆว่านานแค่ไหน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ก็มีผลต่อการเข้าชมเว็บไซตืของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความหรือเนื้อหาในเว็บตลอดจนการจัดตำแหน่งการวางรูปบนหน้าเว็บไซต์ ซึ่งคุณเองอาจจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆเหล่านี้ด้วยเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าชมเว็บและเกิดความถูกใจ

 

พฤติกรรมในการอ่านบทความหรือข้อความต่างๆที่อยู่บนหน้าเว็บ

กรณีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง กับ การอ่านเนื้อหาบทความบนหน้าเว็บไซต์

ผู้หญิงเวลาเปิดหน้าเว็บไซต์ เธอเหล่านั้นมักจะชอบข้อความหรือบทความต่างๆที่อยู่บนหน้าเว็บที่มีความหมายรัดกุม จับใจความง่าย และไม่ยาวจนเกินไป เพราะเธอเหล่าอ่านหลายๆบทความที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ เธอจะยอมอ่านบทความหรือเนื้อหาที่ยาวสักหน่อยในกรณีที่เธอมีความสนใจกับเรื่องนั้นจริงๆจังๆ

กรณีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง กับ รูปภาพ บนเว็บไซต์

ผู้หญิงมักจะชอบของสวยๆงามอยู่แล้ว ดังนั้นรูปภาพที่นำมาแสดงควรมีสีสันสวยงาม และต้องสอดคล้องกับเนื้อหาที่เราได้เขียนบรรยายไว้ด้วย รูปภาพที่ดีความมีความคมชัด ภาพไม่เบลอ เพราะหากรูปภาพต่างๆบนเว็บไซต์ไม่มีสีสันที่สวยงาน เธอเหล่านั้นอาจจะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการรับข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณ

 

กรณีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย กับ การอ่านเนื้อหาบทความบนหน้าเว็บไซต์

ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ชอบอ่าน โดยยิ่งไปเจอเนื้อหาหรือบทความที่มีปริมาณตัวอักษรเต็มหน้าเว็บยิ่งปิดหนี  แต่...ทว่า เวลาที่เขาเหล่านั้นต้องการหาข้อมูลต่างๆ เพื่อดำเนินงานหรือภาระกิจอะไรสักอย่างให้บรรลุเป้าหมาย ต่อให้มีตัวอักษรมากขนาด 2 - 3 หน้าเว็บไซต์เขาก็จะยอมอ่าน เพราะผู้ชายมักจะมีความทะเยอทะยานในด้านการทำสิ่งที่ตนต้องการให้บรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะเรื่องงานหรือสิ่งที่ตนเองชอบ ดังนั้นเนื้อหาหรือบทความควรเขียนอธิบายเป็นหัวข้อๆและจะต้องสื่อความหมายให้เข้าใจง่าย เพื่อที่เขาเหล่านั้นจะเต็มที่กับการอ่านอย่างจริงจังและได้รับประโยชน์กับตัวของเขาเอง

กรณีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย กับ รูปภาพ บนเว็บไซต์

รูปภาพส่วนใหญ่ควรเป็นภาพที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาโดยตรง ยิ่งเกี่ยวกับด้านเทคนิคด้วยแล้วล่ะก็...พวกเขาเหล่านั้นจะยิ่งชอบมาก ซึ่งรูปภาพที่สื่อความหมายนั้นจะต้องเข้าใจง่ายๆโดยไม่ต้องเน้นความสวยงามอะไรมากมาย เพียงเท่านี้เขาเหล่านั้นก็จะชอบเว็บของคุณในที่สุด

 

บทความนี้เป็นความคิดเห็นของผมครับ จะตรงกับความจริงหรือไม่นั้น ให้ท่านลองนำไปคิดวิเคราะห์อีกทีนึงครับ

 

 





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-10-17 18:53:35




เว็บที่มีคุณภาพเป็นแบบไหน เว็บที่มีคุณภาพเป็นแบบไหน

เว็บที่มีคุณภาพเป็นแบบไหน

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

เว็บที่มีีคุณภาพ นั้นจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีข้อมูลและเนื้อหาต่างๆที่น่าสนใจ

โดยมีรูปภาพประกอบบ้างเพื่่อดึงดูดความสนใจแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเรา

คุณภาพที่ดีที่สุดนั้น เนื้อหาบนเว็บไซต์จะต้องเป็นเนื้อหาที่ใหม่ ไม่ซ้ำใคร

เช่นการเขียนเนื้อหา หรืออธิบายสินค้าบนหน้าเว็บของเราโดยที่เราเป็นคน

แต่งเนื้อหานั้นขึ้นมาเอง เพราะจะทำให้ผู้อ่านเกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ และ

ได้ประสบการณ์ใหม่จากการอ่านข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณ

 

หากคุณเคยไปเยี่ยมชมตามเว็บไซต์ต่างๆ แล้วคุณไปเจอข้อมูลในแต่ละเว็บที่ซ้ำกัน

เช่น คุณจะหาข้อมูลเกี่ยวกับ ครีมบำรุงผิว แต่คุณหาข้อมูลในหลายๆเว็บไซต์เพื่อประกอบ

ในการตัดสินใจซื้อ ปรากฎว่าเว็บไซต์ที่คุณได้ไปหาข้อมูลมามีเนื้อหาที่คัดลอกกันมาและซ้ำๆกัน

คุณจะรู้สึกอย่างไร และคุณจะกล้าซื้อสินนั้นๆหรือไม่  ลองคิดดูครับผม

 

สิ่งที่จะทำให้ google มองว่าเว็บคุณมีคุณภาพนั้นแบบคร่าวๆดังนี้ครับ

- เนื้อหาใหม่ๆ ยังไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและมีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์

- มีการนำรูปภาพมาแสดงควบคู่กับเนื้อหาอย่างเหมาะสม รูปต้องไม่มากจนเกินไป เน้นเนื้อหาเป็นหลัก

- ห้ามใส่คำหลักซ้ำๆไปมา เพื่อหวังติดอันดับหน้าแรกเพราะ google จะดึงคุณไปอยู่อันดับล่างๆแทน

และคนที่เข้ามาอ่านก็จะไม่รู้สึกประทับใจ ยกตัวอย่างเช่น  เว็บทำไวเป็นรับทำเว็บไซต์รวดเร็วโดยที่

เว็บทำไวบริการโปรโมทให้ฟรี 300 เว็บหากคุณสั่งทำเว็บกับเว็บทำไว เว็บทำไวราคาไม่แพงเหมาะกับ

ธุรกิจขนาดย่อมทุกประเภท

จะเห็นว่าจากตัวอย่างข้างต้นนั้นอ่านแล้วมันน่ารำคาญจริงๆ ขนาดผมเขียนเองแล้วอ่านเองยังรำคาญเลยครับ

 

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว แนะนำแนวทางกันเลยดีกว่าครับ

โครงสร้างการเขียนบทความ

หัวเรื่อง
คำนำ (+5 บรรทัด )     

อธิบาย (+15 บรรทัด )        

สรุป(+3 บรรทัด)   

 

ตัวอย่างการเขียนบทความเพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้ซื้อสนใจในสินค้าครับ (ผมก๊อปเค้ามาครับ ไม่ได้คิดเอง)


   1. เริ่มจาก เล่าประสบการณ์แย่ ๆ จากการใช้สินค้าตัวอื่นมานิด ๆ หน่อย ๆ เช่น

      “….. เมื่อหลายเดือนก่อน ผมรู้สึกผิดหวัง กับ ทีวี ยี่ห้อ …… มากเนื่องจากมันไม่ตอบสนองการใช้งานของผม  และมัน … บลา  ๆ ๆ ๆ ”
   2. เริ่มตีหัวเข้าบ้าน
      “……. แต่เพื่อนของผมบอกให้ลองพิจารณาทีวี รุ่น… ยี่ห้อ…. และผมก็ตัดสินใจหาข้อมูลอยู่นาน…..”
   3. เริ่มขายของ
      “…… และเมื่อผมได้มันมาในครอบครอง ครั้งแรกผมประทับใจในรูปแบบการดีไซน์ที่สวยงามและน่าหลงไหล…..”
   4. ยาวไป ๆ
      ” …… และผมยังพบว่า มันตอบสนองการใช้งานของผมได้เป็นอย่างดี มันสามารถทำ นั่น นี่ นู่น และ โน่น…. ได้อย่างฉับไว …. ใส่ข้อมูลไปเยอะ ๆ “
   5. โม้ข้อดีของการมีไว้ (นึกถึง ทีวีขายของตอนดึก ๆ)
      “…. มันช่วยให้ลูก ๆ ผมอยู่ติดบ้าน และเราเป็นครอบครัวอีกครั้ง ภรรยาผม ได้ดูทีวีซีรี่ย์โดยไม่บ่นอีกเลย เพื่อน ๆ ผมก็แวะเวียนมาดูฟุตบอลบ่อย ๆ บ้านเราก็กลายเป็นที่รักของชุมชน แถมผมยังสามารถใช้ต่อ Computer ท่องโลก Cyber ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมซื้อเครื่องนึงให้แม่ยาย ภรรยาผมประทับใจมาก และ แม่ยายก็ไม่ค่อยมาหาเราเหมือนแต่ก่อน (อันนี้ท่านก็ใส่ไปนะครับ)”
   6. สุดท้ายปิดการขาย
      “…. ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดผมซื้อมาในราคาแค่ …..$ จากร้าน…… หรือ ตาม link นี้ (ได้โปรดอย่าเอา Link นี้ไปเผยแพร่นะรู้แค่คุณกับผม – แน่ะ มีทำให้ดูลึกลับซะด้วย) ผมคิดว่า เจ้าทีวี…. เป็นของที่ทุกคนต้องมีไว้ติดบ้านเลยนะครับ (A must have item) เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก หากคุณจะมีไว้ซักเครื่องนึง

 

ไงก็ขอบคุณสำหรับคนที่คิดต้นฉบับครับ ใครอยากเอาไปลองเขียนดูก็ได้นะครับ ผมคิดว่ามีประโยชน์และได้ผลจริอย่างแน่นอนครับ





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-10-17 18:53:27




ติดหน้าแรก google ทำไง ติดหน้าแรก google ทำไง

ติดหน้าแรก google ทำไง

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

ลูกค้ามากมายที่กำลังจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง มักจะถามผมว่าพอมีเว็บไซต์แล้ว

เวลาค้นหาใน google มันจะติดหน้าแรกเลยของ google เลยมั้ย นั่นเป็นคำถามที่ดีครับ

แต่ท่านต้องเข้าใจก่อนว่าเว็บไซต์ก็เหมือนกับร้านค้า หาเพิ่งเปิดใหม่ๆคงไม่มีใครรู้จักเว็บคุณแน่

การติดอันดับในหน้าแรกของ google นั้น มันเป็นเรื่องของการแข่งขันกันครับ

รูปแบบก็จะเป็นการแข่งขันในเรื่องของการค้นหาครับ ยิ่งมีคู่แข่งมากยิ่งทำให้เราติดหน้าแรกยาก

ยกตัวอย่างเว็บนี้ที่คุณกำลังดูอยู่นี้ก็ได้ครับ webtumwai.com ซึ่งเว็บนี้ทำเกี่ยวกับการบริการ

รับทำเว็บไซต์  คุณลองพิมพ์ใน google ว่า รับทำเว็บ ดูสิครับ แล้วดูในหน้าแรกคุณจะไม่เห็น

เว็บ webtumwai.com นี้อยู่ในหน้าแรกเลย แต่หากคุณพิมพ์คำว่า รับทำเว็บศรีราชา

ในหน้าค้นหาของ google คุณจะพบว่ามีเว็บนี้ติดอยู่ในหน้าแรกอันดับต้นๆ

 

ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเว็บไซต์อื่นๆที่เค้าทำมากก่อนผมเป็นเวลานานและมีอยู่มากมาย

เค้าเน้นคำว่า รับทำเว็บ ดังนั้นเว็บเราเพิ่งเปิดใหม่ google จึงไม่ให้ความสัญคัญกับเว็บที่เพิ่งเปิด

เนื่องจากเว็บอื่นๆที่ทำมาก่อนเค้ามีคนเข้าและมีเนื้อหาข้อมูลต่างๆเป็นที่นิยมมากกว่าเว็บเราครับ

และจำนวนเว็บไซต์ที่มีคำว่า รับทำเว็บ มีอยู่มากมาย google ก็จะเลือกเว็บที่มีเนื้อหาสารถมากที่สุด

คนเข้ามากสุด จัดไว้เป็นอันดับต้นๆครับ

 

ก็จะเห็นได้ว่าการหลีกเลี่ยงคำที่มีคู่แข่งเยอะสามารถทำให้เว็บเราอยู่ในอันดับต้นๆได้โดยไม่ยาก

เพียงแต่ คำที่เราเลือกมาใช้นั้น จะต้องเป็นคำที่มีคนค้นหาด้วยนะครับซึ่งหากเรานำคำที่ไม่มีคู่แข่งเลย

เช่น รับทำเว็บบนยานอวกาศ แบบนี้ก็คงไม่มีใครค้นหาแน่นอนครับและคงไม่มีใครอยากจะไปสั่งทำเว็บ

บนยานอวกาศหรอกครับ

 

หลักจากหาคำหลักของเว็บได้แล้วว่าจะใช้คำว่าอะไรให้คนเข้าเว็บเราอย่างเหมาะสม และคู่แข่งน้อย

ขั้นตอนต่อไปก็นำเว็บไปลงประกาศตามเว็บบอร์ดต่างๆครับ เพี่ยงเท่านี้เว็บเราก็จะไต่อันดับขึ้นมาอันดับ

ต้นๆได้ภายในเวลาไม่กี่เดือนครับ

 

สรุป

หาคำหลักของเว็บไซต์ที่เราจะทำ ให้มีคนค้นหามากๆ  แต่ต้องมีคู่แข่งน้อยๆครับ

ลิงค์ด้านล่างนี้เป็นโปรแกรมของ google เอาไว้ค้นหาคำหลักครับ ว่าคำนั้นมีคนค้นหามาก-น้อยเพียงใด และมีคู่แข่งมากหรือไม่

http://adwords.google.com/o/Targeting/Explorer?__c=1000000000&__u=1000000000&ideaRequestType=KEYWORD_IDEAS

 

 





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-10-17 18:53:18




เพิ่งทำเว็บเสร็จ ใครจะเข้ามา? เพิ่งทำเว็บเสร็จ ใครจะเข้ามา?

เพิ่งทำเว็บเสร็จ ใครจะเข้ามา?

ประเภท : ข้อมูลเพิ่มเติมการทำเว็บ

รายละเอียด

  นั่นสิครับ เพิ่งทำเว็บเสร็จใหม่ๆใครจะรู้จักเว็บเราล่ะ แล้วเค้าจะเข้าเว็บเรามาได้อย่างไร แล้วสินค้าที่ลงในเว็บจะขายได้มั้ย???

เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับการเพิ่งเริ่มต้นมีเว็บไซต์หรือกำลังคิดที่จะทำเว็บไซต์เป็นของตนเอง

ซึ่งคำถามดังกล่าวนั้น มักเป็นคำถามที่อยู่ในใจของใครอีกหลายๆคนว่าทำไงคนถึงเข้าเว็บ แล้วเว็บเราจะ

ติดอันดับหน้าแรกในการค้นหาของ google ไหม ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเรามาดูขั้นตอนก่อนดีกว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง

 

อันดับแรก มีคิดเล่นๆกันก่อนว่า ถ้าหาเราเปิดร้านขายของเล็กๆน้อยๆที่บ้าน แน่นอนร้านที่เพิ่งเปิดคงไม่มีใครรู้จักแน่

แล้วอยากให้คนในหมู่บ้านมาซื้อของ เราต้องทำอย่างไร แน่นอนที่สุดก็คือการโปรโมทหรือการโฆษณาครับ

ความจริงแล้วมันก็มีวิธีง่ายๆที่หลากหลายและแตกต่างกันไปเช่น แจกใบปลิว, ติดป้ายโฆษณาตามที่ต่างๆ

บอกเพื่อนหรือคนรู้จักให้บอกต่อๆกันไป เป็นต้น ซึ่งวิธีเหล่านี้เองก็สามารถทำให้มีคนมาซื้อของในร้านของเรา

แต่...นี่่มันเว็บไซต์นะ จะใช้วิธีพวกนี้ได้ด้วยเหรอ คำตอบก็คือได้เช่นกันครับ แต่นอกเหนือจากวิธีนี้แล้วยังมีวิธีอื่นๆ

อีกเช่นกัน กล่าวคือ การโปรโมทเว็บไซต์ครับ

 

การโปรโมทเว็บไซต์ คือ การนำเอาข้อมูลขอเว็บไซต์เราไปลงประกาศตามเว็บไซต์ต่างๆที่เค้ายินดีให้เราลงประกาศโฆษณา

เช่น เว็บบอร์ด เว็บบล็อก facebook และอีกมากมาย ซึ่งการโปรโมทด้วยวิธีนี้จะทำให้คนที่สนใจสินค้าของเราเข้ามาหา

ร้านค้าเว็บไซต์ของเราเองครับ ส่วนลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าของเราก็ขึ้นอยู่กับสินค้าที่เราแสดงไว้บนเว็บและการเขียน

ข้อมูลของสินค้า(อธิบายสินค้า การโน้มน้าว การชวนเชื่อ) เอาล่ะเท่านี้คุณก็รู้แล้วว่าทำอย่างไรคนถึงจะรู้จักเว็บไซต์ของเรา

 

แต่ก็มีคำถามอีกว่า จะเอาเว็บไปโปรโมทเว็บหรือลงประกาศเว็บไหนอ่ะ จะไปรู้ได้ไง

อ่ะ....บอกให้ก็ได้ครับ เข้าไปที่เว็บไซต์ google แล้วพิมพ์ชื่อสินค้าของเรา แล้วตามด้วยคำว่า เว็บบอร์ด ยกตัวอย่างเช่น

ร้านของผมขายตุ๊กตา ผมจะพิมพ์ในช่องค้นหาของ google ว่า ตุ๊กตา เว็บบอร์ด จากนั้นกดปุ่มค้นหา

เพียงเท่านี้ก็มีเว็บบอร์ดมากมายที่เกี่ยวกับตุ๊กตาและคุณก็สามารถสมัครสมาชิกในเว็บไซต์นั้นๆ แล้วนำข้อมูล+รูปภาพ

ของสินค้าของคุณไปตั้งกระทู้ในเว็บนั้นๆ ครับ  เชื่อผมสิ...ไม่นานเกินวัน จะมีคนเข้าเว็บไซต์ของคุณหลายคนแน่นอน

 

หากต้องการให้คนเข้าเยอะๆก็ต้องขยันโปรโมทกันหน่อยนะครับ ส่วนใครทำเว็บกับผม ครั้งแรกผมโปรโมทในเว็บลงประกาศ

ให้ฟรีๆ 300-400 เว็บไซต์ครับ เพื่อที่จะได้มีคนเข้าเว็บของคุณและรู้จักกับสินค้าของคุณทันที

 





ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2013-10-17 18:53:08