webtumwai.com=> ฝึกนั่งสมาธิ -> ทำความเข้าใจกับ ปีติ ในสมาธิ(ฌาน) และรู้จักมากยิ่งขึ้น โดย อานาปานสติ ๑๖ ขั้น


ทำความเข้าใจกับ ปีติ ในสมาธิ(ฌาน) และรู้จักมากยิ่งขึ้น โดย อานาปานสติ ๑๖ ขั้น

FaceBook Twitter
จำนวนผู้เข้าชม : 4462 คน

ทำความเข้าใจกับ ปีติ ในสมาธิ(ฌาน) และรู้จักมากยิ่งขึ้น โดย อานาปานสติ ๑๖ ขั้น
ทำความเข้าใจกับ ปีติ ในสมาธิ(ฌาน) และรู้จักมากยิ่งขึ้น โดย อานาปานสติ ๑๖ ขั้น




สั่งซื้อ คลิกที่นี่
กรอกข้อมูลทิ้งไว้ เดี๋ยวเราติดต่อกลับไปทาง LINE หรือ E-mail
ค้นหา

รายละเอียด

ทำความเข้าใจกับ ปีติ ในสมาธิ(ฌาน) และรู้จักมากยิ่งขึ้น โดย อานาปานสติ ๑๖ ขั้น

ราคา : 0 .-

ประเภท : ฝึกนั่งสมาธิ






บันทึกวันที่ : 17/11/2562



คลิกอ่าน -- ทดสอบวัดคลื่นสมอง เมื่อเข้าสมาธิ



บันทึกวันที่ : 07/02/2561

ก่อนหน้านี้ผมก็ฝึกสมาธิมาอย่างต่อเนื่อง มีทิ้งช่วงไปบ้างในบางโอกาสที่ไม่ว่างฝึก แต่ก็ยังมีความพยายามที่ไม่ลดละในการฝึก เหมือนในใจลึกๆรู้สึกว่าจะต้องฝึกฝนไปจนตลอดชีวิตนี้

ปีติ เป็นภาษาบาลีครับ  เวลาภาษาไทยยืมมาใช้จะเป็นปิติครับ ถ้าแปลง่ายๆ ก็คือ ความดื่มด่ำ

มาเข้าเรื่อง ปีติ กันบ้างดีกว่า หลังที่ฝึกฝนสมาธิมานานแต่ก็ยังไม่เคยเข้าใจถึงอารมณ์ปีติแบบจริงๆจังๆสักที  เพราะอาการปีติในสมาธินั้นมีอยู่หลากหลาย บางทีก็คล้ายกับว่าตัวเราเบาลอย , บางที่ก็รู้สึกเหมือนหน้าเราคว่ำหกคะเมนตีลังกา บางที่ก็เหมือนขนลุกซู่ , บางทีก็เหมือนซู่ซ่าทั่วทั้งกาย  ซึ่งทั้งหมดนี้ผมเคยเจอมาแล้ว และมันก็เกิดขึ้นแป๊บเดียวก็หายไป จนทำให้ผมไม่แน่ใจในเรื่องของปีติ เพราะมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและหายไปรวดเร็ว หรือผมตามรู้ไม่ทันอารมณ์ปีติกันนะ ??

และวันนี้ผมก็เข้าใจอารมณ์ของปีติแบบที่เข้าใจยิ่งขึ้นครับ ซึ่งเราสามารถตามรับรู้อารมณ์ปีติได้ต่อเนื่อง แล้วมันทำให้เราพัฒนาก้าวไปสู่ ฌาน2 ได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นโดยที่เราไม่มีความลังเลสงสัยเลยว่านั่นเราเข้าฌาน2 แล้ว


มาดูแนวทางสู่การรู้ชัดอารมณ์ปีติในสมาธิ นะครับ

ผมได้เรียนรู้ในเรื่องของการฝึกสมาธิแบบอาณาปานสติ 16 ขั้นมาครับ  คือใช้วิธีรู้ลมหายใจเข้าออกเป็นฐานเหมือนกับอาณาปานสติทั่วๆไปครับ แต่เราจะไม่หวังผลในเรื่องของลำดับขั้นของ ฌาน ใดๆ  โดยการฝึกอาณาปนสติ 16 ขั้นจะเน้นให้เรามีสติรู้ เกี่ยวกับอารมณ์ในสมาธิปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับทุกลมหายใจ - จนถึงรู้เพื่อวางทุกสิ่งอย่าง - ซึ่งเป็นขั้นท้ายๆทำได้ยากครับ วิธีนี้เป็นเหมือนเป็นการฝึกสมาธิและสติให้เข้มแข็งขึ้นอย่างมาก และเป็นกรรมฐานเดียวที่เวลาก่อนเราจะตาย เราจะรู้ชัดเจนว่าลมหายใจสุดท้ายของเรานั้น จะหายใจเข้าแล้วตาย หรือหายใจออกแล้วตาย (ขนาดตอนจะตายสติยังคมชัดมากๆ เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าตอนตายจิตเราจะเป็นสมาธิ)

ผมจะกล่าวแค่ขั้นแรกๆนะครับ เอาแค่ถึงประมาณขั้นรู้ปีติและสุขก็พอครับ

ขั้นที่ 1 : กำหนดรู้ลมหายใจยาว หายใจเข้า , กำหนดรู้ลมหายใจยาว หายใจออก
(ลมหายใจยาว คือ ลมหายใจธรรมดา เหมือนที่เราหายใจปกติตอนลืมตานั่นแหละ ห้ามดัดแปลงโดยลากลมหายใจให้ยาวนะครับ)

=> เมื่อทำไปสักพัก สมาธิเราจะค่อยๆแนบแน่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วลมหายใจของเราก็จะค่อยๆละเอียดและเบาบางลง (มันเป็นของมันเองโดยธรรมชาติ ไม่มีการบังคับลมหายใจ)

ขั้นที่ 2 : กำหนดรู้ลมหายใจละเอียด หายใจเข้า  ,   กำหนดรู้ลมหายใจละเอียด หายใจออก

=> ลมหายใจละเอียด ลักษณะของการหายใจจะสั้นลง ลมหายใจก็จะมีความเบาบาง เราสามารถรู้ชัดได้ด้วยตนเอง เมื่อทำไปสักพัก ลมหายใจเริ่มละเอียดขึ้นมาเรื่อยๆ

ขั้นที่ 3 : กำหนดรู้ กายทั้งปวง หายใจเข้า  ,  กำหนดรู้ กายทั้งปวง หายใจออก

=> โดยกำหนดให้สักแต่ว่าลมหายใจนั้นเป็นส่วนหนึ่งของธาตุในกาย ไม่ได้มีอะไร เป็นเพียงแค่ธาตุลมที่ไหลเข้าไหลออกเท่านั้น รวมถึงกำหนดรู้กายทั้งกายด้วย (กำหนดรู้ให้มันเป็นอย่างที่มันเป็น)

ขั้นที่ 4 : ทำจิตให้ระงับกายสังขาร หายใจเข้า  , ทำจิตให้ระงับกายสังขาร หายใจออก

=> (ในขั้น 4 นี้ ลมหายใจจะละเอียดมากๆจนเหมือนเราหายใจนิดๆเดียว ให้เรากำหนดรู้อารมณ์สภาวะทุกลมหายใจเข้า-ออก เพื่อสงบระงับด้วยจิตที่สงบนิ่งรวมถึงร่างกายด้วย โดยการปล่อยวางมันซะ)

ในขณะนี้ด้วยลมหายใจที่ สั้น , เบา และละเอียดมากๆ ซึ่งถ้าเราไม่กำหนดสติตามรู้ท่วงทัน  เราจะคิดไปเองว่าเรานั้นไม่ได้หายใจ หรือคิดไปว่าลมหายใจหายไป และนั่นก็จะทำให้เกิดความสงสัย ความกลัว และสมาธิก็จะไม่แนบแน่น จนทำให้สมาธิของเราไม่ก้าวหน้าสู่ขั้นที่ 5 ได้

หลังจากที่ลมหายใจละเอียดมากๆและกายสังขารสงบระงับ มันก็จะเป็นเหตุให้เกิด ปีติ ซึ่งตรงนี้ปีติมีหลากหลาย แต่เราให้กำหนดรู้ปีติที่นิยมใช้ในการฝึกกัน คือ อารมณ์ปีติที่ให้ความแผ่ซ่าน ซาบซ่าน มีความเย็นแผ่ออกไปทั่วทั้งร่างกาย

ร่างกายจะได้รับความสุขในแบบที่ไม่เคยเจอในชีวิตประจำวัน ซึ่งความสุขทางใจที่สงบก็เริ่มปรากฎเมื่อปีตินี้เกิดขึ้น

ปีตินี้ผมพอจะมีเทคนิคในการสร้างอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ท่านอื่นจะทำได้เหมือนกันหรือไม่  คือเมื่อปีติเล็กน้อยที่เป็นความซาบซ่านเริ่มเกิดขึ้นที่ร่ายกาย ให้เรากำหนดรู้ทั้งร่างกายของเราในขณะอารมณ์ปีติทีกำลังแผ่ซ่าน แล้วความซาบซ่านมันจะแผ่ไปทั่วร่างกายเองโดยอัตโนมัติ

ถ้าใครมาถึงขั้นนี้ผมเชื่อว่าต้องกำหนดรู้กายทั้งกายของตนเองได้อย่างแน่นอน แล้วอารมณ์ปิติจะเกิดเด่นชัดต่อเนื่อง ซึ่งทำให้คุณสัมผัสกับอารมณ์ปีติที่ดี มีความสุข และสงบ อย่างที่ไม่เคยรู้มากว่า เราสามารถอยู่กับปีตินี้ยาวๆได้โดย

กำหนดรู้อารมณ์ปีติหายใจเข้า และ กำหนดรู้อารมณ์ปีติหายใจออก พร้อมกับรู้ทั้งร่างกาย (คือการกำหนดคงไว้ซึ่งปีติ เพื่อให้เข้าใจอารมณ์ปีติให้ชัดเจน แต่ในที่สุดของการข้ามสู่ขั้นถัดไปเราก็ต้องให้ปีติสงบระงับอยู่ดีนะครับ)

ขั้นที่ 5 : กำหนดรู้ปีติ หายใจเข้า  , กำหนดรู้ปีติ หายใจออก 

=> | ขั้นที่ 5 นี้ การกำหนดรู้เป็นไปเพื่อการระงับอารมณ์ปีติ นะครับ ถ้าปีติดับไป ความซาบซ่านทั้งหลายมันจะหายไปครับ คงเหลือไว้แต่ความสุขทางใจที่อิ่มเอิบเท่านั้น|

ผมก็ขอกล่าวแค่ถึงขั้นที่5นะครับ ขั้นอื่นๆที่เหลือท่านใดสนใจก็สามารถไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก google ครับผม

----------------

ก็ด้วยการฝึกตามที่กล่าวมาข้างต้นของอาณาปานสติ 16 ขั้น  เราจะเห็นได้ว่าเป้าหมายหลักไม่ได้มุ่งเน้นที่การสร้าง ฌาน หรือลำดับขั้นของ ฌาน แต่จะมุ่งเน้นที่สติที่รู้ชัดแล้วค่อยๆวางอารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในสมาธินั่นเอง

โดยทั้งอาณาปานสติ 16 ขั้นนี้จะไม่มีการทิ้งฐานของลมหายใจครับ ไม่ว่าจะรู้อารมณ์อะไรก็ต้องห้ามลืมฐานของสติ นั่นคือลมหายใจ นั่นเอง

ดังนั้นการฝึกแนวๆนี้จึงทำให้เราสามารถเข้าใจและรู้ชัดอารมณ์ต่างๆในสมาธิได้อย่างชัดเจน หากท่านใดเคยปฏิบัติแล้วเกิดอารมณ์ปีติ แต่ไม่ค่อยชัดเจน ก็จะมารู้ชัดเจนด้วยการฝึกสมาธิแบบ อาณาปานสติ 16 ขั้น ครับผม

------------------



ด้านล่างนี้จะเป็นอารมณ์ของ ปีติ ที่ถูกแบ่งไว้ 5 แบบ นะครับ ก๊อปเค้ามาอีกทีนึงท่านก็ลองดูนะครับว่าเคยสัมผัสปีติแบบไหนมาบ้างแล้ว

ปีติ 5 (ความอิ่มใจ, ความดื่มด่ำ — joy; interest; zest; rapture)

       1. ขุททกาปีติ (ปีติเล็กน้อย พอขนชูชันน้ำตาไหล — minor rapture; lesser thrill)

       2. ขณิกาปีติ (ปีติชั่วขณะ ทำให้รู้สึกแปลบๆ เป็นขณะๆ ดุจฟ้าแลบ — momentary or instantaneous joy)

       3. โอกกันติกาปีติ (ปีติเป็นระลอกหรือปีติเป็นพักๆ ให้รู้สึกซู่ลงมาๆ ในกาย ดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง — showering joy; flood of joy)

       4. อุพเพตาปีติ หรือ อุพเพงคาปีติ (ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรงให้รู้สึกใจฟูแสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา ลอยขึ้นไปในอากาศ — uplifting joy)

       5. ผรณาปีติ (ปีติซาบซ่าน ให้รู้สึกเย็นซ่านแผ่เอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ ปีติที่ประกอบกับสมาธิ ท่านมุ่งเอาข้อนี้ — suffusing joy; pervading rapture)

----------------

การฝึกที่กล่าวข้างต้น อันที่ผมแนะนำอารมณ์ของปีติที่ใช้ในการฝึกถ้านำมาเทียบกันแล้ว น่าจะอยู่ในหมวดหมู่ที่ 5 ของอันนี้นะครับ (ผรณาปีติ)

ทั้งหมดนี้ก็ได้จากประสบการณ์ของการฝึกฝนสมาธินะครับ ก็หวังว่ามันอาจจะเป็นแนวทางหรือประโยชน์กับท่านที่มีความมุ่งมั่นและกำลังศึกษาในด้านของการฝึกสมาธิครับผม




 

  เมื่อวันที่ : 2019-11-17 08:57:48


สอบถาม โทร : 087-613-1076 คุณพิษณุ
Line ID : 0876131076


สั่งซื้อ คลิกที่นี่
กรอกข้อมูลทิ้งไว้ เดี๋ยวเราติดต่อกลับไปทาง LINE หรือ E-mail



ประสบการณ์กสิณน้ำ เหนี่ยวนำจิต ให้สงบรวด
ผมได้พยามฝึกกสิณน้ำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งการฝึกนั้นก็สามารถสั่งจิตให้กำหนดภาพน้ำใสได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็ดูเหมือนจะมีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่าง

ประสบการณ์ ฝึกสมาธิ ใช้กำลังจิตควบคุมคลื
การฝึกสมาธินั้นทำได้หลากหลายวิธีและมีเป้าหมายของการฝึกที่หลากหลายเพราะกำลังสมาธิที่เข้มแข็งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย แม้ปลายทางจะนำกำลังสมาธิ

Muse HeadBand เครื่องวัดสมาธิ ช่วยให้คุณ
Muse HeadBand เป็นเครื่องมืออุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถช่วยวัดผลของคลื่นสมองแล้วแสดงค่าต่างๆออกมาในรูปแบบของกราฟที่เข้าใจง่าย ซึ่งเครื่อง Muse เป็น

อาการ ฌาน2 + ประสบการณ์การเข้าฌาน และวิธ
ฌาน2 และอารมณ์แบบชี้ชัดๆกัน เมื่อทิ้งคำภาวนาแล้ว ขณะที่หายใจเข้าให้รู้ลมหายใจเข้าให้ชัดเจนที่สุดเท่าสมาธิเราจะมีได้ แล้วรู้ไปด้วยว่านั่น วิญญานเกิดแล

ฝึกกสินน้ำ ตามแนวทางของผม อัพเดตเรื่อยๆต
กองของกสินที่ผมเลือกคือกสินน้ำ เพราะมีอาจารย์ท่านหนึ่งให้ความรู้และสอนวิธีเอาไว้ค่อนข้างละเอียด ผมก็เลยลองมาฝึกดู และความยากของกสินน้ำคือมันใสนี่แหละ

จะรู้ได้อย่างไรว่านั่งสมาธิแล้วจิตสงบ -
จะรู้ได้อย่างไรว่านั่งสมาธิแล้วจิตสงบ ? , คุณเคยมีความรู้สึุกแบบนี้ไหมว่าเราฝึกสมาธิมาสักระยะนึงแล้ว เราสามารถเข้าถึงสภาวะทำต่างๆ , อาการต่างๆในสมาธิบ

แชร์ประสบการณ์ นั่งสมาธิ ให้ได้นานๆ + พั
ผมเชื่อว่าทุกคนที่ฝึกสมาธิก็อยากฝึกสมาูธิให้ได้นานๆ อยากให้มีความก้าวหน้าของสมาธิในทุกๆวันที่ทำการฝึกฝน ผมเองก็เช่นกัน ที่ฝึกสมาธิทุกวันโดยอยากให้ม

ทำความเข้าใจกับ ปีติ ในสมาธิ(ฌาน) และรู้
ปีติ เป็นภาษาบาลีครับ เวลาภาษาไทยยืมมาใช้จะเป็นปิติครับ ถ้าแปลง่ายๆ ก็คือ ความดื่มด่ำ มาเข้าเรื่อง ปีติ กันบ้างดีกว่า หลังที่ฝึกฝนสมาธิมานานแต่ก็ยังไ

คลิกเพื่อดูทั้งหมด ->


ชื่อของคุณ


แสดงความคิดเห็น



กรุณารอสักครู่...